MG Maxus 9 รถตู้ไฟฟ้า 100% เปิดหน้าท้าชน Toyota Alphard วิ่งไกล 440 กม. คาดเริ่มต้น 2 ล้านต้นๆ

MG Maxus 9 รถตู้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ขุมพลังไฟฟ้า 100% วิ่งได้ไกลสุดถึง 440 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

เอ็มจีได้นำ NEW MG MAXUS 9 รถลักชัวรี่ MPV ไฟฟ้า100% แบบ 7 ที่นั่ง เป็นพวงมาลัยขวาคันแรกของประเทศไทยและอาเซียน มาโชว์ตัวในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ซึ่งเจ้า MG Maxus 9 ในประเทศจีนจะใช้ชื่อว่า Maxus Mifa 9 ซึ่ง Maxus นั้นเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ภายใต้เครือบริษัท SAIC (Shanghai Automotive Industry Corporation) เช่นเดียวกับ MG นั่นเอง

ดีไซน์ภายนอกของเจ้า Maxus 9 จะมีการออกแบบที่เรียบหรู ล้ำสมัยในแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้า โดยด้านหน้าจะมาพร้อมกับกระจังหน้าทรงคว่ำขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยมที่มีการเล่นระดับของไฟ Day Time Running Light และชุดโคมไฟหน้าแยกออกจากกัน

ด้านข้างเน้นเส้นสายที่ดูเรียบหรู มาพร้อมกับประตูข้างขนาดใหญ่พร้อมระบบสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วแบบทูโทน รัดด้วยยางขนาด 235/55 R19

ด้านท้ายจะพบกับไฟท้ายแบบ LED ขนาดใหญ่ที่ลากยาวตลอดแนวจากซ้ายไปขวา โดยบริเวณปลายของแถบไฟทั้ง 2 ฝั่งจะมีดีไซน์คล้ายรูปตัว Y ช่วยเพิ่มมิติให้กับรถคันนี้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสาร จะพบกับการดีไซน์ที่เน้นความเรียหรูแต่แฝงไว้ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีมากมาย โดยหน้าจอมาตรวัดจะได้เป็นแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมด้วยลำโพง 8 หรือ 12 ตัวขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

เบาะที่นั่งโดยสารแถวที่ 2 จะได้เป็นแบบ Caption Seat หุ้มด้วยหนัง Nappa คุณภาพสูง พร้อมด้วยฟังก์ชั่นความสะดวกสบายมากมาย เช่น ระบบระบายอากาศ ระบบอุ่นเบาะ และระบบนวด มองความสะดวกสบายและสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง

ขุมพลังของ MG Maxus 9 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 180kW ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 245 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 90 kWh ให้ระยะทางวิ่งไกลสูดสูงที่ 440 กิโลเมตร (มาตรฐาน CATL) สามารถชาร์จไฟฟ้าจาก 30 – 80% ในเวลาเพียง 40 นาที

ในส่วนของราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทางเอ็มจีจะมีการประกาศอีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยรถจะพร้อมส่งมอบในเดือนเดียวกัน สำหรับในประเทศจีนรถรุ่นนี้มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 269,900-379,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,400,000 -1,900,000 บาท ซึ่งคาดว่าราคาขายในประเทศไทยจะสูงกว่าในประเทศจีนอยู่ที่ราวๆ 20-30 เปอร์เซ็นต์