เปิดตัว “Kia EV9” เอสยูวี 6 ที่นั่งรุ่นแรกในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เริ่มต้น 3.499 ล้านบาท

เปิดตัว “Kia EV9” รถยนต์เอสยูวี 6 ที่นั่งรุ่นเรือธงคันแรกของบริษัทฯ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบในประเทศไทย

“Kia EV9” เป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ที่แตกต่าง ผสมผสานความปลอดภัยอันเหนือชั้น รวมทั้งการออกแบบ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สร้างความตื่นเต้นให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยงานเปิดตัว “Kia EV9” จัดขึ้นในรูปแบบนิทรรศการเสมือนจริง ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 1 และ 2 มีนาคม 2567 ภายใต้แนวคิด “Space to Inspire Your Future” โดยจะมีการจัดจําหน่ายรถยนต์เอสยูวี 6 ที่นั่งรุ่น “Kia EV9” ในตลาดประเทศไทย 2 รุ่น ได้แก่ Kia EV9 Earth Long Range ราคา 3,499,000 ล้านบาท และ Kia EV9 GT-Line AWD ราคา 3,899,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพนานถึง 7 ปีเต็ม

นายจุน โอ อี ประธาน บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้เรามีความยินดีที่จะแนะนํา Kia EV9 ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีรุ่นเรือธงที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของเรา โดยการเปิดตัว Kia EV9 ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์เกียที่มีต่อตลาดประเทศไทย โดยเรากำลังเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์และตั้งเป้าหมายด้านการดําเนินธุรกิจในระยะยาว ผ่านกลยุทธ์หลักขององค์กรที่มีชื่อว่า ‘Plan S-5’ ซึ่งตั้งเป้าในการบรรลุส่วนแบ่งการตลาด 5% ในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย รวมถึงการขยายอัตราส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2571 และเพื่อให้สามารถก้าวสู่เป้าหมายในการเป็น ‘แบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน’ (Sustainable Mobility Solutions Provider)’ เราจึงให้ความสําคัญกับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การเชื่อมต่อ (Connectivity) การขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous driving) ประสิทธิภาพ (Performance) และการออกแบบ (Design) ด้วยเหตุนี้ การเปิดตัว Kia EV9 รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 6 ที่นั่งรุ่นแรกของประเทศไทยในวันนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดของเรา โดยรถเอสยูวีเรือธงรุ่นใหม่นี้ ได้รับการตอบรับที่ดีมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเปิดตัวในระดับโลกเมื่อช่วงปีที่แล้ว โดยเห็นได้จากการได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย อาทิ รางวัล Golden Steering Wheel 2023 ในประเภท ‘Family Cars’ และรางวัล ‘รถสำหรับครอบครัวยอดเยี่ยมแห่งปี (Family Car of the Year)’ จากงานประกาศรางวัล TopGear.com Awards ประจำปี 2023 เป็นต้น”

นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Kia EV9 มีความโดดเด่นด้วยปรัชญาการออกแบบ ‘Opposites United’ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นการพลิกโฉมรถเอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากการผสมผสานองค์ประกอบที่เป็นธรรมชาติและมีความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สอดคล้องกับการสื่อสารของแบรนด์ภายใต้แนวคิด ‘The Inspiration Larger than Life’ ในแง่ของการใช้งาน Kia EV9 มีตัวเลือกการปรับที่นั่งอันหลากหลายซึ่งตอบสนองกับความต้องการในการใช้งานรูปแบบต่างๆ โดยสามารถปรับที่นั่งสำหรับ 6 ที่ได้ 2 แบบสําหรับแถวที่ 2 เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้พื้นที่ให้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด และสำหรับ Kia EV9 Earth Long Range ยังมาพร้อมนวัตกรรมเบาะนั่งปรับหมุนได้ 180 องศา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำเสนอฟังก์ชันนี้ในรถยนต์กลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่ในไทย ช่วยให้ผู้โดยสารภายในสามารถโต้ตอบ เชื่อมต่อ และสื่อสารกับคนที่คุณรักได้ สำหรับ Kia EV9 GT-Line AWD มาพร้อมเบาะนั่งพักผ่อนระดับเฟิร์สคลาสที่ให้ความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น ด้วยที่นั่งแบบเลานจ์ที่มีที่พักเท้าแบบปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบอุ่น และสามารถระบายอากาศได้ ซึ่งเป็นเบาะนั่งผู้โดยสารในแถวที่สองแบบ Relaxation ที่ดีที่สุด มาพร้อมฟังก์ชันการนวดต่างๆ การเปิดตัวรถยนต์เอสยูวี Kia EV9 ครั้งนี้ เกียพร้อมสรรค์สร้างมาตรฐานใหม่สําหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะปฏิวัติแนวคิดการเดินทางอย่างมีสไตล์ พร้อมด้วยความสะดวกสบายที่จะ ‘พลิกโฉม’ (Reshape) ประสบการณ์การใช้งานรถเอสยูวีระดับพรีเมียม ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันน่าทึ่ง มีประสิทธิภาพและสมรรถนะที่เร้าใจ รวมไปถึงประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น”

รูปลักษณ์ภายนอกของ Kia EV9 ให้ความรู้สึกร่วมสมัยและเรียบหรู เข้ากับสไตล์อันซับซ้อนของคอนเซปต์การขับเคลื่อนที่ยั่งยืนในยุคปัจจุบัน โดยตัวรถมีระยะฐานล้อ 3,100 มม. สามารถรองรับล้อรถขนาด 21 นิ้วหรือ 20 นิ้ว ตามแต่จะเลือกใช้ ซึ่งรุ่น GT-Line AWD มีความยาวโดยรวมตลอดตัวรถอยู่ที่ 5,015 มม1. กว้าง 1,980 มม. และสูง 1,780 มม2. ทำให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและร่วมสมัย ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Kia EV9 ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับ ‘Panoramic Wide Display’ ที่มีจอแสดงผลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5.3 นิ้ว ช่วยให้สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและส่งผ่านข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โหมด EV ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบและควบคุมข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับ EV ทั้งหมดได้ในโหมดเดียว โดยผู้ขับขี่สามารถแก้ไขและกําหนดค่าอินเทอร์เฟซในสไตล์วิดเจ็ตได้อย่างอิสระตามต้องการ มากไปกว่านี้ โฉมด้านหน้าของ Kia EV9 ยังเป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจ ความชัดเจน และความสงบ ด้วยเส้นสายและพื้นผิวที่ชัดเจน โดยโฉมด้านหน้าแบบ ‘Digital Tiger Face’ อันเป็นเอกลักษณ์ของรถเอสยูวีรุ่นนี้ สะท้อนถึงความพิเศษเฉพาะตัวด้วยกระจังหน้าในสไตล์ ‘Digital Pattern Lighting Grille’ และไฟหน้าแนวตั้ง ส่งให้ Kia EV9 เป็นรถเอสยูวีมีรูปลักษณ์ทันสมัยและล้ำอนาคต นอกจากนี้ ด้านหน้าแบบ ‘Digital Tiger Face’ ยังมาพร้อมดวงไฟทรงลูกบาศก์ขนาดเล็กสองแถวที่อยู่ติดกับไฟหน้าแต่ละดวงอย่างมีเอกลักษณ์อีกด้วย

รถยนต์รุ่น Kia EV9 มาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกําลังไฟฟ้ามากมายตามมาตรฐาน Electric Global Modular Platform (E-GMP) และใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นที่ 4 ของเกีย โดยมีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 99.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทั้งในรุ่น Kia EV9 Earth Long Range และในรุ่น Kia EV9 GT-Line AWD โดยในรุ่น Kia EV9 Earth Long Range ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 149.5 กิโลวัตต์ / 350 นิวตันเมตร ทําให้ตัวรถสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ในเวลา 9.4 วินาที ส่วนรุ่น Kia EV9 GT-Line AWD มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กําลังรวมถึง 282.6 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวม 700 นิวตันเมตร โดยการผสมผสานที่ทรงพลังนี้ช่วยให้เอสยูวีรุ่นนี้สามารถพุ่งทะยานขึ้นจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.3 วินาที นอกจากนี้ Kia EV9 ยังมอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งานด้วยระยะทางจากพลังงานไฟฟ้า สูงสุดถึง 680 กิโลเมตร3 ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งในการชาร์จแบบรวดเร็วพิเศษ (Ultra-fast Charge) 350 กิโลวัตต์ เป็นเวลา 24 นาที จะสามารถวิ่งได้เป็นระยะทางถึง 450 กิโลเมตร4 และที่สำคัญ Kia EV9 ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมายซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากเกีย เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสาร อาทิ Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA), Lane Keeping Assist (LKA), Smart Cruise Control (SCC) with Stop & Go และ Forward Collision Avoidance Assist (FCA) with Junction Assist ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในสถานการณ์ที่อาจเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ Kia EV9 ยังมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้วยฟีเจอร์พิเศษต่างๆ เช่น Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance (RCCA) และ Parking Collision-Avoidance Assist (PCA)

______________________________________________

[1] 5.015 มม. ในรุ่น EV9 GT-line AWD

2 1,780 มม. ในรุ่น EV9 GT-line AWD

3 ระยะทางขับเคลื่อนตามมาตราฐาน NEDC ของ EV9 Earth Long Range อยู่ระหว่างรอผลทดสอบอย่างเป็นทางการ

4 อ้างอิงจากผลการทดสอบ NEDC ในรุ่น Kia EV9 GT-Line AWD ระยะการขับขี่จริงและระยะเวลาการชาร์จจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพของแบตเตอรี่ เครื่องชาร์จ และปัจจัยอื่นๆ ระหว่างการชาร์จ

“เกียจะเริ่มเปิดตัวกิจกรรมต่างๆ ภายใต้แคมเปญระดับโลกเพื่อมุ่งส่งเสริมการ ‘พลิกโฉมการขับขี่ที่เหนือกว่า (Here to Reshape the Way We Move)’ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและสานต่อวิสัยทัศน์สําหรับอนาคตที่ยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายยิ่งขึ้น สําหรับตลาดประเทศไทย ในวันที่ 1 และ 2 มีนาคมนี้ เราได้เปิดตัวรถยนต์เอสยูวีเรือธงรุ่นใหม่ Kia EV9 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อย่างยิ่งใหญ่ โดยเราได้เตรียมนิทรรศการในรูปแบบเสมือนจริงที่จะเชื่อมโยงผู้เข้าชมงานเข้ากับเรื่องราวอันเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจของแบรนด์เกีย ผ่านการจัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ของเราในแบบอินเทอร์แอคทีฟ ภายใต้แนวคิด ‘Space to Inspire Your Future’ โดยทุกคนจะได้เยี่ยมชม 2 โซนอันน่าตื่นเต้น ได้แก่ นิทรรศการโซน 1 ในธีม ‘Our Inspiration’ และนิทรรศการโซน 2 ในธีม ‘Our Future is Here’ พร้อมกันนี้ ภายในงานยังได้สร้างเซอร์ไพรส์เผยโฉม “Kia EV5” เป็นครั้งแรกก่อนการเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม 2567” นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล กล่าวเสริม

รถยนต์เอสยูวีรุ่น Kia EV9 มีให้เลือกใน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Kia EV9 Earth Long Range ราคา 3,499,000 ล้านบาท และ Kia EV9 GT-Line AWD ราคา 3,899,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพยาวนาน 7 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 7 ปี รวมถึงฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี สําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง Kia EV9 GT-Line AWD ในเดือนมีนาคม บริษัทฯ จะเริ่มทำการส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2567 และสําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง Kia EV9 Earth Long Range บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะส่งมอบรถยนต์ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2567 เป็นต้นไป สําหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียด รวมถึงลงทะเบียนทดลองขับได้ที่บูธเกีย ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายนนี้

บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มอบแคมเปญสุดพิเศษเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ Kia EV9 ได้ง่ายขึ้น ด้วยโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน พ.ศ. 2567

โปรโมชันสำหรับลูกค้า Kia EV9 ทั้ง 2 รุ่น:

ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ (ต้นงวด) 1.79% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน1
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ระยะเวลา 2 ปี2
ฟรี อุปกรณ์ Kia Home Charger 1 ชุด และฟรี ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า3
ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร4
การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร5
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง6
การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร7

หมายเหตุ:

1 อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.79% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

2 ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

3 Kia Home Charger 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง รวมมูลค่า 69,000 บาท

4 เงื่อนไข ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

5 เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

6 เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย)

7 เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)