รถสปอร์ตสุดหายาก 12 คัน

 

รถยนต์ที่มีการผลิตจำนวนจำกัดไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่ว่ารถที่ถูกสั่งทำหรือสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษนั้นได้สร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ไม่น้อย แต่นาน ๆ ครั้งผู้ผลิตรถยนต์จะสร้างโมเดลน้อยกว่า 100 คันหรือบางครั้งก็เป็นตัวเลขหลักเดียว ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่ารถสปอร์ตสุดหายาก 12 คันจะมีอะไรบ้าง

ซึ่งเหตุผลการสร้างอาจแตกต่างกันไประหว่างรถยนต์ที่มีราคาแพงมาก หรือใช้เวลาในการสร้างหรือผลิตที่ยาวนาน เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าเพียงรายเดียวหรือสองรายที่ต้องการรูปแบบตัวถังที่แตกต่างกันตามแชสซีที่มีอยู่ เป็นรถยนต์ที่มีการผลิต โดยเราจะจับตามองมุ่งเน้นไปที่ การผลิต “ไม่เกิน 10 คัน” เริ่มกันที่

 

1. 1969 Chevrolet Corvette ZL1 (ผลิต 2 คัน)


ตามบันทึกการผลิตของ Chevrolet Corvette ZL1 มีเพียง 2 คันเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นและจำหน่ายในปี 1969 ที่ราคา 10,048.15 ดอลลาร์ฯ ZL1 Corvette มาพร้อมเครื่องยนต์อลูมิเนียมทั้งหมด 427 ลูกบาศก์นิ้ว ชุดอุปกรณ์ราคาแพง เพลาหลัง Positraction, ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังแบบพิเศษ, เบรกและระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์ หากย้อนกลับไปในวันนั้นนิตยสาร Road & Track ได้ถือครองรถทดสอบคันหนึ่งและมันสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.0 วินาที และ 4 ไมล์ใน 11 วินาที ในตอนนี้รถทั้งสองคันมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ฯ

 

2. W Motors Lykan HyperSport (ผลิต 7 คัน)


ในช่วงเวลาของการผลิตระหว่างปี 2013 – 2017 Lykan HyperSport นับเป็นรถที่มีราคาแพงที่สุดเป็นอันดับ 3 เท่าที่เคยสร้างมา โดยจะมีค่าตัวอยู่ที่ 3.4 ล้านดอลลาร์ฯ ไฮเปอร์คาร์คันนี้ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างวิศวกรชาวเลบานอนและอิตาลี ซึ่งได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นในตะวันออกกลาง โดยรถทั้ง 7 คันนี้ใช้เครื่องยนต์หกสูบ เทอร์โบชาร์จคู่ ให้พละกำลัง 780 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด W Motors อ้างว่า Lykan HyerSport จะทำความเร็วได้ 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที และท็อปสปีดที่ 245 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 394 กม./ชม.

 

3. Maybach Exelero (ผลิต 1 คัน)

Maybach Exelero มีเพียงคันเดียวเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากบริษัทย่อยในเยอรมันของ Goodyear Tyre & Rubber Company ชื่อ Fulda หน้าที่หลักของมันคือการทดสอบและอวดยางรุ่น Carat Exelero และสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับ DaimlerChrysler ซึ่งเป็นเจ้าของ Maybach ในเวลานั้น เจ้า Maybach Exelero ใช้เครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ของ Maybach ซึ่งให้พละกำลังถึง 690 แรงม้า และแรงบิด 752 ปอนด์-ฟุต ที่ความเร็ว 2,500 รอบต่อนาที Exelero มีประวัติที่น่าสนใจนับตั้งแต่ถูกสร้างและใช้งานโดยบริษัทยางรถยนต์ และถูกนำเสนอในรายการทีวีของตำรวจเยอรมัน Cobra 11 จากนั้นถูกซื้อโดย Birdman แร็ปเปอร์ชาวอเมริกัน จากนั้นก็ถูกซื้อต่อโดยร้านอาหารเยอรมันชื่อ Mechatronik ระหว่างทาง Exelero ได้รับการแสดงในมิวสิกวิดีโอ Jay-Z และรายการอนิเมะญี่ปุ่นชื่อ Nisekoi

 

4. Icona Vulcano Titanium (ผลิต 1 คัน)


Vulcano Titanium ถูกผลิตเพียงคันเดียว ตัวถังรถถูกสร้างขึ้นโดยใช้ไทเทเนียมจำนวนมากและมีราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังใช้เวลานานในการสร้าง จากข้อมูลของ Icona รถคันนี้ไม่สามารถทำซ้ำได้เนื่องจากต้องใช้เวลากว่า 10,000 ชั่วโมงในการทำงานด้วยมือเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์ รถคันนี้ถูกจัดแสดงในงานต่างๆ และวางขายในราคา 2.78 ล้านดอลลาร์ฯ ส่วนที่เหลือของรถค่อนข้างธรรมดา โดยมันมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 6.2 ลิตร V8 ที่ดึงมาจาก C6 Corvette ZR-1 โดยมันสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 220 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 354 กม./ชม.

 

5. 2011 Hennessey Venom GT Spyder (ผลิต 6 คัน)


Hennessey Performance ฉลองวันเกิดครบรอบ 25 ปีด้วยการประกาศว่า Venom GT Spyder กลายเป็นรถเปิดประทุนที่เร็วที่สุดในโลก ขับเคลื่อนโดย Brian Smith ผู้อำนวยการโรงเรียน Ford Performance Racing School Venom GT Spyder ทำความเร็วสูงสุด 265.6 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 428 กม./ชม. ซึ่งรถคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 7.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 1,451 แรงม้า และแรงบิด 1,287 ปอนด์-ฟุต รุ่น Spyder โดยหนึ่งในผู้ครอบครองคือ สตีเวนไทเลอร์ นักร้องของ Aerosmith 

 

6. 1991 Shelby Cobra 427 Continuation (ผลิต 9 คัน)

รถโรดสเตอร์ของอังกฤษที่เพิ่งเลิกผลิตไปเมื่อในช่วงปี 1950 สำหรับการใส่เครื่องยนต์อเมริกัน V8 ขนาดใหญ่นั้นดูเหมือนเป็นสูตรสำหรับหายนะ สำหรับ Carroll Shelby ไม่ได้เป็นเพียงนักขับที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นแต่เขายังเป็นนักธุรกิจเท็กซัสที่ได้รับความสำเร็จสูงสุดอีกด้วย โดยสัญลักษณ์งูเห่านั้นเป็นแบรนด์หนึ่งของยานยนต์ แต่มีเพียง 998 คันเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นจริงในช่วงปี 1961 ถึง 1968 รวมถึงรถสตรีทและรถแข่งขัน ต่อมาในช่วงปี 1991 เชลบีตัดสินใจใช้ประโยชน์จากแชสซีที่ไม่ได้ใช้และสร้าง เจ้างูเห่าที่เสร็จสมบูรณ์เพื่อขาย อย่างไรก็ตามกรมยานยนต์จะออกเฉพาะชื่อที่ประทับตราสำหรับการใช้งานบนถนนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เชลบีจึงสร้างงูเห่าเสร็จสิ้นเพียง 9 คันเท่านั้น

 

7. Pagani Zonda Revolucion (ผลิต 5 คัน)


Pagani Zonda Revolucion เพิ่มการอัพเกรดตามหลักอากาศพลศาสตร์จำนวนมาก และใส่ปีกด้านหลังใหม่ โดยทั้งหมดมีความจำเป็นเนื่องจากเครื่องยนต์ Mercedes-AMG GT 112 ตอนนี้ทำกำลังได้ 789 แรงม้า และแรงบิด 538 ปอนด์-ฟุต พลังดังกล่าวจะถูกถ่ายโอนไปยังล้อโดยเกียร์ซีเควนเชียล Xtrac 672 6 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์ในพริบตา 20 มิลลิวินาที ค่าตัวสำหรับห้าคนที่โชคดีพอที่จะจ่ายได้ และได้รับคำสั่งซื้อคือ 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

8. Shelby Cobra 427 Super Snake (ผลิต 2 คัน)


เชลบีก้าวไปอีกขั้นในปี พ.ศ. 2509 เมื่อ Shelby Cobra 427 Super Snakeได้เพิ่มเครื่องอัดบรรจุอากาศแบบ Paxton สองตัวซึ่งทำให้แรงม้าของ Ford V8 เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า กับผลลัพธ์ที่ได้คือ 800 แรงม้า ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 2,500 ปอนด์ และเชลบีอ้างว่ามันจะทำความเร็ว 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3 วินาที โดยคันแรกเป็นการครอบครองของเชลบีเอง รถอีกคันถูกขายให้กับ Bill Cosby นักแสดงตลกชื่อดัง แต่ส่งคืนกลับมาหลังจากขับ Super Snake เพียงครั้งเดียว จากนั้นก็ขายให้คนอื่นและรถก็พังเพราะอุบัติเหตุและทำให้คนขับเสียชีวิต 

 

9. Schuppan 962CR (ผลิต 6 คัน)


Vern Schuppan นักขับรถแข่งคว้าแชมป์ Le Mans 24 Hours ในปี 1983 และ All Japan Sports Prototype Championship สำหรับ ปอร์เช่ 962 เวอร์ชันที่ใช้งานบนท้องถนนจริงได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชาวญี่ปุ่นซึ่งสนับสนุนทีมแข่งของ Schuppan คือทาง Reynard Motorsport โดยการสร้างแชสซีและการประกอบขั้นสุดท้ายเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร มันถูกผลิตขึ้นระหว่างปี 1992 ถึง 1994 ซึ่งมันไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการสร้างและขายรถยนต์มูลค่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยการที่ต้นทุนสูงและภาวะถดถอยทั่วโลก ในที่สุด Schuppan ก็ล้มละลายกับรถพลัง 600 แรงม้าที่สร้างขึ้น ซึ่ง Schuppan 962CR 2 คันถูกชนแสียหายหนัก และตอนนี้เหลือเพียงแค่ 4 คันเท่านั้น

 

10. Lamborghini Veneno Coupe (ผลิต 5 คัน)


Lamborghini ฉลองครบรอบ 50 ปีด้วยการผลิตรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดรุ่นหนึ่งเท่าที่เคยสร้างมา รถแต่ละคันมีราคา 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย Lamborghini Veneno Coupe มีพื้นฐานมาจาก Lamborghini Aventador แต่ทรงพลังกว่าด้วยกำลัง 740 แรงม้า ที่มาจากเครื่องยนต์ขนาด 6.5 ลิตร V12 นอกจากนี้ยังมีตัวถังใหม่ที่มีการปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศและแรงกด เช่นเดียวกับระบบการล้อล็อคที่ออกแบบให้เหมือนกังหันเพื่อส่งอากาศเข้าสู่ระบบเบรกแบบคาร์บอนเซรามิก

 

11. Laraki Epitome (ผลิต 9 คัน)


ในปี 2013 นักออกแบบและผู้ประกอบการชาวโมร็อกโกชื่อ Abdesslam Laraki ได้เปิดตัว Laraki Epitome มูลค่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ Pebble Beach ตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้มีน้ำหนักเพียง 2,800 ปอนด์ ในขณะที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 แบบเดียวกับที่ขับเคลื่อน C6 Corvette แต่ได้รับการปรับแต่งให้ผลิต 1,200 แรงม้า สำหรับเชื้อเพลิงออกเทน 91 แต่สำหรับเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทน 110 ทาง Laraki อ้างว่า Epitome จะมีกำลังถึง 1,750 แรงม้า ซึ่งได้มีการจำกัดการสร้างเพียง 9 คัน โดยได้รับคำสั่งซื้อจากศิลปินฮิปฮอปชาวมอนทาน่า ประเทศฝรั่งเศส

 

12. Koenigsegg CC8S (ผลิต 6 คัน)


CC8S เป็นรถโปรดักชั่นของ Koenigsegg ซึ่งเปิดตัวหลังจากการวิจัยและพัฒนา 8 ปี ใช้เครื่องยนต์ขนาด 4.7 ลิตร V8 แบบซูเปอร์ชาร์จ เพื่อผลิตกำลัง 655 แรงม้าและแรงบิด 553 ปอนด์-ฟุต เพื่อขับเคลื่อน CC8S ให้เข้าถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาไม่เกิน 3.5 วินาที รถคันนี้มันเป็นรถ 2 ที่นั่ง ไฮไลท์เด่นคือแชสซีคาร์บอนไฟเบอร์เสริมเคฟลาร์ แผงตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ และการใช้ประตูแบบ dihedral-synchro helix ของ Koenigsegg เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับรางวัลมากมายสำหรับการออกแบบแม้เพียงจะมีการสร้างแค่ 6 คันเท่านั้น

 

ที่มา : Carbuzz