Lamborghini Urus เปิดตัวแล้วในไทย เริ่มต้น 23.42 ล้านบาท

บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีในประเทศไทย เปิดตัว ลัมโบร์กินี อูรุส (Lamborghini Urus) ซูเปอร์เอสยูวีคันแรกของโลกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดราคาเริ่มต้นที่ 23.42 ล้านบาท

Urus รถซูเปอร์เอสยูวี 5 ที่นั่งที่มาพร้อมกับความหรูหราและทรงพลังที่สุดในรถเอสยูวีระดับเดียวกัน การออกแบบรูปทรงและเส้นสายของตัวรถยังคงเอกลักษณ์ความเป็นลัมโบร์กินีตั้งแต่ รูปทรงด้านหน้าที่ดูปราดเปรียว ลาดลง และช่องรับอากาศด้านหน้าที่เป็นรูปตัว Y ไฟหน้าแบบ LED ทรงเพรียวบาง

สำหรับด้านข้างโฉบเฉี่ยวด้วยแนวหลังคาลาดเอียง กระจกแบบไร้กรอบ บั้นท้ายมีแผงรีดอากาศดิฟฟิวเซอร์ ท่อไอเสียทรงกลม และไฟท้ายทรงตัว Y

ภายห้องโดยสารสปอร์ตหรู สะท้อนเอกลักษณ์ลัมโบร์กินีด้วยดีไซน์ทรงหกเหลี่ยมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นช่องระบายอากาศ ที่จับประตู และที่วางแก้ว นอกจากนี้ยังมีพวงมาลัยสามก้านพร้อมระบบลดการสั่นสะเทือนและระบบมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัยที่ช่วยควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์ เฉพาะของลัมโบร์กินี (Lamborghini Infotainment System-LIS)

 

รวมทั้งการตั้งค่าในรถยนต์ระบบแอปเปิลคาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ การควบคุมโทรศัพท์ ระบบนำทาง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะไร้กุญแจ พร้อมระบบปลดล็อคประตูรถแบบสัมผัสที่ประตูและกระโปรงหลัง เบาะนั่งปรับไฟฟ้าอัตโนมัติ และโหมดการขับขี่ EGO Mode ที่สามารถปรับเปลี่ยนคาแรกเตอร์ของรถให้ผู้ขับขี่เกิดความพึงพอใจสูงสุด

Lamborghini Urus ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม.ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดกว่า 300 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมจานเบรกแบบคาร์บอนเซรามิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาด 440 มม. ในด้านหน้า และขนาด 370 มม.ในด้านหลัง ทำให้ระยะเบรกจาก 0-100 กม./ชม. มีระยะเพียง 33.7 เมตรเท่านั้น

Lamborghini Urus มีระบบ Tamburo ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่แตกแต่งกันมากถึง 6 รูปแบบ ได้แก่

  • STRADA สำหรับการขับขี่ทั่วไปที่ให้ความสบายเหนือชั้น
  • SPORT สำหรับการขับขี่อย่างมั่นคงและแม่นยำในความเร็วสูง
  • CORSA สำหรับการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะ และความแม่นยำสูงสุด
  • NEVE สำหรับการขับขี่บนถนนที่มีหิมะ
  • TERRA สำหรับการขับขี่แบบออฟโร้ด
  • SABBIA สำหรับการขับขี่แบบออฟโร้ดบนผืนทราย

ทั้งนี้ Urus ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ทันสมัย (Advanced Driver Assistance Systems-ADAS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของลัมโบร์กินี ให้ความมั่นคง ปลอดภัย และสุนทรียภาพในการขับขี่สูงสุด รวมทั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เซนเซอร์หน้าและหลังสำหรับจอดรถ ระบบครูซคอนโทรล และระบบ PreCongnition ที่ช่วยป้องกันหรือบรรเทาความรุนแรงจากการปะทะ นอกจากนี้ ยังมีออฟชั่น ADAS ซึ่งมีระบบช่วยเหลือในการขับขี่บนท้องถนน เช่น กล้องจับภาพด้านบน และฟังก์ชั่นตะขอพ่วงรถด้านท้าย เป็นต้น

Lamborghini Urus เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 23.42 ล้านบาท พร้อมบริการหลังการขายระดับท็อปคลาสและบริการซ่อมบำรุงครบวงจรเป็นเวลา 5 ปี พร้อมกันนี้ ยังได้เตรียมจัดแสดงให้สาธารณชนได้สัมผัสกันในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมนี้ อีกด้วย