“BMW S 1000 RR” ใหม่ นำทัพความแรงสู่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36

 

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย พร้อมท้าทายขีดจำกัดของวงการซูเปอร์สปอร์ตอีกครั้งด้วยบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยกระดับสมรรถนะให้เหนือขึ้นไปอีกขั้นด้วยน้ำหนักที่เบาลงและประสิทธิภาพในการขับขี่ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

โดยในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปที่จะถึงนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยังนำเสนอสมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูลทัวริ่งอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลัง ผสานความสะดวกสบายในการเดินทางทั้งระยะใกล้และระยะใกล้ไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยมอเตอร์ไซค์ในตระกูลอื่น ๆ อีกมากมายมาให้แฟนบิ๊กไบค์ได้สัมผัสกันอย่างครบครัน

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่

ราคาจำหน่าย: 1,020,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BMSI Standard)

สำหรับสี Racing Red 1,050,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BMSI Standard)

สำหรับสี Light White /Racing Blue Metallic / Racing Red

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ นับเป็นเจเนอเรชั่นที่สามตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกในปี 2552 ซึ่งนอกจากได้รับการพัฒนาในด้านสมรรถนะแล้ว ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังเป็นในเรื่องของความเร็ว ที่มีความเร็วสูงสุดต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 1 วินาที การออกแบบรูปโฉมและระบบต่าง ๆ คำถึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบายของผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมและการขับขี่สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน บนเส้นทางคดเคี้ยว หรือแม้กระทั่งการโลดแล่นด้วยความเร็วสูงบนสนามแข่ง

ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบและเทคโนโลยี BMW ShiftCam สมรรถนะโดยรวมของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ จึงได้รับการยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง BMW ShiftCam มีส่วนสำคัญในการเสริมความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ เสริมด้วยระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบท่อไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 1.3 กิโลกรัม นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ยังส่งพละกำลังเพิ่มขึ้น 6 กิโลวัตต์ (8 แรงม้า) เป็น 152 กิโลวัตต์ (207 แรงม้า) ที่ 13,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบต่อนาทีช่วยเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่และการเร่งขณะขับขี่ที่ความเร็วต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังมีน้ำหนักเบาลงถึง 11 กิโลกรัม ลงจาก 208 กิโลกรัมในรุ่นก่อนหน้ามาอยู่ที่ 197 กิโลกรัม

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังพัฒนามาให้มีน้ำหนักลดลง โดยการออกแบบเฟรมรถใหม่ นอกจากจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการยศาสตร์ของผู้ขับขี่แล้ว ยังเน้นไปที่การส่งน้ำหนักไปยังเครื่องยนต์ในระยะทางที่สั้นที่สุด การเคลื่อนที่ของรถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้นจากการผสานประสิทธิภาพระหว่างมิติรถ การกระจายน้ำหนักระหว่างล้อ และความสามารถในการรับน้ำหนักที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนระบบ Full Floater Pro ช่วยเสริมสมรรถนะของช่วงล่างล้อหลังให้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม ซึ่งด้วยการพัฒนาทั้งหมดนี้ ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ สามารถนำเสนอการควบคุมรถและการยึดเกาะถนนที่แม่นยำยิ่งขึ้นในทุกสภาวะการขับขี่ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเสริมประสิทธิภาพและลุคโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M ซึ่งมาพร้อม ล้อสไตล์ M คันคลัทช์และเบรก M และท่อเก็บเสียง M

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังสามารถรองรับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย ทั้ง 4 รูปแบบการขับขี่พื้นฐาน ได้แก่ “Rain”, “Road”, “Dynamic” และ “Race” อีกทั้งยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบโปร ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการควบคุมต่าง ๆ ให้ตรงกับรูปแบบการขับขี่เฉพาะตัว ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS Pro ระบบ Dynamic Traction Control อัตราเร่ง และการหน่วงกำลังเครื่องยนต์ ที่ปรับเปลี่ยนตามทักษะและรูปแบบในการขับขี่ นอกจากนี้ ระบบ Dynamic Damping Control (DDC) ยังได้รับการพัฒนาเฉพาะสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ปรับค่าการสั่นสะเทือนให้เหมาะสมตามสภาพถนน

แผงหน้าปัดของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ได้รับการออกแบบใหม่ให้ลงตัวกับการโลดแล่นด้วยความเร็วสูงในสไตล์ซูเปอร์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มตัวเลือกในการแสดงผลต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมจอแสดงผล TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่ง่ายต่อการอ่านค่าในทุกสภาพแสง โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลได้ 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ Pure Ride ซึ่งเน้นการแสดงผลเฉพาะข้อมูลที่สำคัญต่อการขับขี่ และ Core Ride ที่สามารถเลือกการแสดงผลค่าต่าง ๆ เพิ่มได้อีก 3 รูปแบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกการแสดงผลที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลายได้ตามความต้องการ

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ยังมาพร้อมเฟรมตัวถังแบบใหม่ หรือ Flex Frame ที่ใช้พื้นที่บริเวณถังน้ำมันและเบาะนั่งน้อยลง จึงเพิ่มพื้นที่สำหรับการรองรับน้ำหนักและที่รองเข่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จุดสัมผัสระหว่างผู้ขับขี่และตัวรถยังได้รับการออกแบบใหม่ให้สอดรับกับองศาระหว่างผู้ขับขี่ มือจับทั้งสองข้าง เบาะนั่ง และที่พักเท้า เพื่อให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่วงท่าที่สบายที่สุดตามหลักการยศาสตร์ ไฟหน้า LED ตอกย้ำถึงความโฉบเฉี่ยวและความดุดันของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ดีไซน์ตัวถังใหม่สร้างความโดดเด่นสะดุดตาจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยมาใน 2 สี 2 สไตล์ด้วยกัน คือ สีแดง Racing Red Uni และสี Light White Uni/Racing โดยบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR มาพร้อมกับโปรแกรม BMSI (BMW Motorrad Service Inclusive) ที่มีระยะเวลาบำรุงรักษาตามมาตรฐาน 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และรับประกันคุณภาพ 3 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศและของเหลว ขนาด 1,254 ซีซี ที่ได้รับการยกระดับให้สามารถส่งพละกำลังและแรงบิดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถโลดแล่นได้อย่างราบรื่นแม้ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ส่งกำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที เครื่องยนต์บ็อกเซอร์รุ่นใหม่นี้ยังโดดเด่นด้วยระบบไอเสียที่สามารถปล่อยมลพิษน้อยลง และประหยัดเชื้อเพลิง เติมเต็มสมรรถนะเครื่องยนต์ด้วยเทคโนโลยี BMW ShiftCam ที่เสริมความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ เพลาลูกเบี้ยวยังเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยห่วงโซ่ฟันแทนโซ่ส่งกำลังแบบเดิม ส่วนระบบหัวฉีดคู่และระบบไอเสียใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานยูโร 4 ที่เน้นประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลายสำหรับความต้องการที่แตกต่างของนักบิด ได้แก่ ‘Rain’, ‘Road’ และ Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่แบบโปร คือ ‘Dynamic’, ‘Dynamic Pro’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ พร้อมระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) และระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อเสริมความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่อุ่นใจยิ่งขึ่นในทุกสภาวะการขับขี่ เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วย ระบบ Dynamic Traction Control และ ABS Pro ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ช่วยให้เบรกหลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้รถมีระยะเบรกสั้นลง ในขณะที่ยังสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นคง

ระบบช่วงล่างที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า หรือ Dynamic ESA ยังสามารถปรับการตอบสนองของโช้คอัพได้อย่างอัตโนมัติและฉับไวตามสภาวะการขับขี่และการควบคุมรถ ปรับค่าการสั่นสะเทือนให้เหมาะสมตามสภาพถนน เพื่อการขับขี่ที่สบายและมั่นคงในทุกเลี้ยวโค้ง

ดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ใหม่ ยังคงเน้นองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งอย่างเต็มเปี่ยมใน 4 สี 4 สไตล์ด้วยกัน ได้แก่ สีขาว Alpine white สีแดง Mars red metallic/Dark slate metallic matt สี Manhattan metallic และสีน้ำเงิน Option 719 Blue planet metallic/Ivory นอกจากนี้ ชุดแต่งจาก BMW Motorrad Spezial ยังเป็นอีกทางเลือกที่พร้อมสร้างความแตกต่างให้สะดุดตายิ่งขึ้น ด้วยชิ้นส่วนคัสตอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟในวัสดุเกรดพรีเมียม และงานฝีมืออันประณีตบรรจงในทุกรายละเอียดจากช่างผู้เชี่ยวชาญ มอบสไตล์ที่โดดเด่นแบบเฉพาะตัว

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ใหม่ สีขาว Alpine White

ราคา: 1,340,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

สำหรับรุ่นสีขาว Alpine White จะโดดเด่นด้วยล้อสีเงิน Silver metallic ตัดสลับกับตัวเครื่องสีเงิน Aluminium Silver metallic มาพร้อมกับฝาครอบถังน้ำมันกลางตัวรถและที่รองเข่าสีเข้ม Slate Dark metallic matt สวยสะดุดตา นอกจากนี้ ตุ้มถ่วงปลายแฮนด์ ขอบกระจกหน้ารถ และคาลิเปอร์เบรคสีดำ พร้อมด้วยสปอยเลอร์ด้านหน้าและสปอยเลอร์เครื่องยนต์สีดำ Night Black ยังขับเน้นให้ส่วนของเครื่องยนต์นั้นโดดเด่นและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT Sport ใหม่ สีแดง Mars red metallic/Dark slate metallic matt

ราคา: 1,375,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ในโมเดล Sport รุ่นนี้ นำความจัดจ้านจากสีแดง Mars red metallic มาตัดกับสีดำ Dark slate metallic matt เสริมลุคสปอร์ตและปราดเปรียว ส่วนเครื่องยนต์ใหม่ถูกขับให้โดดเด่นด้วยฝาครอบฝาสูบสีเทา Agate Gray metallic matt ขณะที่กระจกหน้ารถที่สั้นลงทำให้ดูสปอร์ตมากขึ้น

ด้วยล้อสีเทา Asphalt Gray metallic matt และเครื่องยนต์ที่เคลือบด้วยสีดำ รูปลักษณ์โดยรวมของบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT Sport จึงดุดันและทรงพลัง ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถ เช่น ตุ้มถ่วงปลายแฮนด์และขอบกระจกหน้ารถใช้สีดำทั้งหมด ซึ่งสีเข้มอย่างสี Slate Dark metallic matt ช่วยเสริมให้ตัวรถมีเส้นสายที่สมบูรณ์ลงตัว เมื่อตัดกับสีแดง Mars Red metallic matt บนฝาครอบถังน้ำมันตรงกลางรถ ที่รองเข่า และส่วนหน้าของมอเตอร์ไซค์

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT Elegance ใหม่ สี Manhattan Metallic

ราคา: 1,375,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

โมเดล Elegance มุ่งเน้นรูปลักษณ์ที่หรูหรา สง่างามของบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ใหม่ ด้วยการตกแต่งสีตัวถังในสี Manhattan metallic ล้อสีเงิน Silver metallic และตัวเครื่องยนต์เคลือบสีเงิน Aluminium Silver metallic เพิ่มความสวยสะดุดตาแต่ยังคงไว้ซึ่งความประณีต ส่วนฝาครอบถังน้ำมันตรงกลางรถและที่รองเข่านั้นก็ผสานกลมกลืนไปกับมิติรถในสีเทา Granite Grey metallic matt

องค์ประกอบต่าง ๆ ของตัวรถที่เคลือบสีโครเมียม อย่างตุ้มถ่วงปลายแฮนด์และขอบกระจกหน้ารถ เน้นย้ำความเป็นมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งได้อย่างชัดเจน ส่วนสปอยเลอร์ของเครื่องยนต์สีดำ Night Black matt เมื่ออยู่คู่กันกับสปอยเลอร์ด้านหน้า จะสะท้อนให้เห็นถึงขุมพลังใหม่ที่ดุดัน พร้อมเสริมความหรูด้วยคาลิเปอร์เบรคสีทองที่เพิ่มเอกลักษณ์และความสง่างามให้กับรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT Option 719 style ใหม่ สีน้ำเงิน Blue planet metallic/Ivory

ราคา: 1,520,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

สีตัวถังที่มีความเงาโดดเด่นสะดุดตาในรุ่น Option 719 Style นั้น ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษด้วยการพ่นสีน้ำเงิน Spezial Blue Planet metallic องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ของรถที่เป็นโครเมียม เช่น ตุ้มถ่วงปลายแฮนด์และขอบกระจกหน้ารถสะท้อนความหรูหราของบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT Option 719 style ได้อย่างลงตัว

ในส่วนของสปอยเลอร์เครื่องยนต์นั้นใช้สีดำ Night Black ตัดกับสีเงิน Aluminium Silver metallic ของตัวเครื่องยนต์ เพิ่มความหรูให้กับตัวรถด้วยล้อเคลือบสีเงินและคาลิเปอร์เบรคสีทอง