เปิดตัวแล้ววันนี้ Nissan Terra รถอเนกประสงค์พื้นฐานกระบะ ส่งราคามาฟาดฟันเริ่มที่ 1.3 ล้านเท่านั้น

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในไทยสำหรับ Nissan Terra รถรูปแบบ PPV (Pick-Up Passenger Vehicle) หรือรถอเนกประสงค์ ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทรงพลังเทอร์โบคู่

เปิดให้จับจอง เทอร์ร่า ใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม นี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,316,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 V 2WD 7AT  1,349,000 บาทสำหรับรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT และ 1,427,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT โดยมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีน้ำตาล เอิร์ธ บราวน์ (Earth Brown), สีดำ แบล็คสตาร์ (Black Star), สีขาว ไวท์เพิร์ล (White Pearl), สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเสอร์ (Brilliant Silver) และ สีเทา ทไวไลท์ เกรย์ (Twilight Gray)

ที่ผสมผสานสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน มีพื้นที่ภายในใช้สอยที่กว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง และเทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี ทำให้ลูกค้าเดินทางไปได้ทุกที่ด้วยความมั่นใจ

พัฒนาจากประสบการณ์กว่า 60 ปี ทั้งในรถยนต์เอนกประสงค์ และการทำธุรกิจในประเทศไทย  มาพร้อมเครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า และมีแรงบิดมหาศาลที่ 450 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งที่ดี ให้พละกำลังต่อเนื่องพร้อมทุกการขับขี่เมื่อเทียบกับเอสยูวีในระดับเดียวกัน

มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี เพื่อเสริมการขับขี่ให้ปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเอสยูวีรายแรก และรายเดียวที่มีเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยด้านหลังขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Warning (LDW)  เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) และเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มาพร้อม เทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) โดยทั้งหมดนี้ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นควบคู่กับการได้รับความสะดวกสบายอย่างสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน

นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) และระบบ Electronic Rear Differential-Lock รวมถึง เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และเทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ที่ช่วยให้สามารถควบคุมความเร็วของรถได้ในสภาวะการขับขี่ที่สูงชัน และด้วยระยะความสูงจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถ หรือ Ground Clearance  ถึง 225 มิลลิเมตร ยังช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่มาจากถนนที่ขรุขระ มีหลุมบ่อไม่ราบเรียบ หรือ การขับรถผ่านพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังได้อย่างมั่นใจ

“นี่เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย สำหรับประเทศไทย รวมถึงตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำลังการผลิตรวมของนิสสันในประเทศไทยอยู่ที่ 370,000 คันต่อปี และคาดว่า เทอร์ร่า ใหม่ จะกลายเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราวความสำเร็จของการผลิตในภูมิภาคนี้ของนิสสัน”